สำหรับบทความนี้เราก็ยังอยู่กันที่เรื่องของ การถ่ายภาพ ซึ่งสิ่งที่หลาย ๆ คนควรจะรู้จักนั้นก็คือ “แสงแฟร์” ซึ่งเป็นแสงที่บางคนก็อยากให้มาถึงรูกล้องตัวเองบ้าง แต่บางคนก็ไม่ค่อยถูกกับแสงแฟร์เอาเสียเลย เพราะปรับแก้ไขได้ยากมาก ๆ แต่ก็ต้องบอกว่าการเกิดแสงแฟร์นั้น มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งในปัจจุบันโทรศัพท์หลาย ๆ รุ่น ก็มีการทำฟีเจอร์มาให้รองรับการปรับแสงแฟร์เหล่านี้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นวันนี้เราก็มีเทคนิคดี ๆ ที่ใช้ในการถ่ายรูปเมื่อเจอกับแสงแฟร์ ว่าจะมีวิธีการถ่ายอย่างไรให้รูปของเราสามารถเข้ากับแสงแฟร์ได้ดีที่สุด
แสงแฟร์คืออะไร พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสเมื่อเจอแสงแบบนี้
แสงแฟร์ (Flair) คือ แสงของดวงอาทิตย์ที่เข้ามาตกกระทบกับกล้องมากเกินไป ทำให้เกิดความไม่ประพึงประสงค์ในภาพขึ้นได้ โดยที่ภาพที่มีแสงแฟร์เข้ามานั้น หากใครที่มีเทคนิคในการถ่ายภาพเมื่อเจอกับแสงแฟร์ดี ๆ ก็จะทำให้ภาพดูมีความเนียนและมีความคลาสสิกได้มากยิ่งขึ้น แต่หากใครที่ถ่ายภาพเมื่อเจอแสงแฟร์ไม่เก่งก็อาจจะทำให้รายละเอียดของรูปภาพที่เราถ่ายนั้นมีความผิดเพี้ยนไปด้วย และยิ่งเข้าไปแก้ไข ก็ยิ่งทำให้ภาพแย่ลง สรุปแล้วกคือภาพนั้นไม่ได้มาตรฐานนั่นเอง
ซึ่งในความเป็นจริงแล้วแสงแฟร์เขาก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเลยค่ะ เพราะแสงแฟร์เขาก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ซึ่งการถ่ายภาพที่มีแสงแฟร์มากเกินไปนั้นก็จะทำให้ภาพดูสวยขึ้นมาอีกแบบ โดยเวลาที่แสงแฟร์จะเข้ากล้องแล้วทำให้การถ่ายภาพดูมีความสวยสมจริงมากที่สุดคือเวลาพลบค่ำค่ะ ช่วงพระอาทิตย์กำลังตกดินนี่แหละที่จะทำให้ภาพของเราดูสวยขึ้นด้วยแสงแฟร์เลย แต่หากเป็นในเวลากลางวันนั้น ก็คงจะแย่เสียน้อย เพราะการที่แสงแฟร์เข้ากล้องเยอะเกินไปในเวลากลางวัน จะทำให้ได้ภาพที่ไม่ค่อยสวยเสียเท่าไหร่
แต่ทั้งนี้การถ่ายภาพที่มีแสงแฟร์เยอะแล้วออกมาสวยหรือไม่สวยนั้น ขึ้นอยู่กับเทคนิคในการถ่ายล้วน ๆ ดังนั้นใครที่อยากลองท้าทายความสามารถของตัวเอง ก็ลงไปถ่ายภาพในที่ที่มีแสงแฟร์เยอะ ๆ กันดูได้เลย
ถึงจะมีแสงแฟร์ แต่ภาพก็ยังสวยได้แบบเนียน ๆ
ด้วยความเทคนิคในการถ่ายภาพที่มีหลากหลาย ทำให้การถ่ายภาพเมื่อเจอแสงแฟร์ของแต่ละคนก็มีความแตกต่างกันไป ดังนั้น เทคนิคการถ่ายภาพเมื่อเจอแสงแฟร์ หากเราได้รู้ไว้สักนิด ก็ไม่เสียหายเลย จริงไหมคะ